วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

NOD32

                                        NOD32

       NOD32 เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยทีมงาน ESET, SPOL r.o. s และ ESET, LLC ผู้ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ในระดับสูงแนวหน้าของโลก ชื่อเสียงของโปรแกรมป้องกันไวรัสที่พวกเขาสร้างขึ้นดังกระฉ่อนไปทั่วโลก และทั่วประเทศไทยในระยะเวลาอันสั้น NOD32 ภาษาไทย เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในเวอร์ชั่น 2.x เมื่อหลายปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับเสียงการตอบรับจากผู้ใช้งานทั่วประเทศที่ดีมาก แต่ตอนนั้นยังไม่สนับสนุนภาษาไทย ก็เลยเบาลงไป และในปัจจุบัน โปรแกรม NOD32 รองรับการแสดงผล ภาษาไทย เต็มรูปแบบ พร้อมคู่มือการติดตั้งและใช้งานที่เป็นภาษาไทยและคำอธิบายการทำงานอย่างละเอียด ซึ่งหมายความว่าโปรแกรมนี้ได้ถูกนิยมขึ้นอีกครั้ง และทำให้ NOD32 ภาษาไทย เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวต้นๆที่ผู้ใช้งานถามถึง เพราะจากเดิมแล้วประสิทธิภาพการทำงานของ NOD32 นั้นถือว่าเข้าตาผู้ใช้งานมาก ทั้งในเรื่องของคุณภาพในการป้องกันไวรัสและเรื่องคุณภาพของการใช้งาน มันใช้งานง่ายและแทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้มากมายเลย มันก็สามารถที่จะป้องกันไวรัสได้แบบเด็ดขาดมาก ตั้งแต่ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวนี้มาก็ไม่มีไวรัสมากวนใจอีกเลย

NOD32 วิธีการติดตั้ง

เรามาดูการติดตั้ง NOD32 กับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณได้มีโปรแกรมป้องกันไวรัสดี ๆ แบบนี้ไว้ใช้งานกัน
NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 1
Figure 1: NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 1
NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 2
Figure 2: NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 2
NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 3
Figure 3: NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 3
NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 4
Figure 4: NOD32 วิธีการติดตั้ง ขั้นตอนที่ 4
หลังจากติดตั้ง NOD32 เสร็จแล้ว ก็จะพบกับหน้าตาแบบนี้ บางทีมันอาจจะไปหน้าหลักก็ได้ แต่อันนี้มันจะเด้งมาหน้าที่ถามว่าคุณต้องการสแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์เลยหรือไม่? ถ้าคุณยังไม่ต้องการสแกนอะไร ก็ปล่อยทิ้งไว้ก่อน เรามาดูขั้นตอนการใช้งานแบบภาษาไทยกันคร่าวๆ ว่า โปรแกรมสแกนไวรัสขั้นเทพ NOD32 ของเราจะมีความสามารถและลูกเล่นอะไรบ้าง?

NOD32 วิธีการใช้งาน

หลังจากติดตั้งไปแล้ว ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น เรามาดูความสามารถและอธิบายส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรม NOD32 กันว่า มันมีความสามารถอะไรบ้าง? มันทำอะไรได้บ้าง? และมันจะเจ๋งซักแค่ไหน? และทำไมคนไทยทั้งประเทศถึงเทใจให้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวนี้เป็นพิเศษ (ไม่ทุกคน) รวมถึงตัวผู้โพสด้วย ^__^
NOD32 อัพเดต
Figure 6: NOD32 อัพเดต
เริ่มต้นด้วยการ อัพเดต NOD32 (UPDATE NOD32) กันก่อนเลย เพื่อให้ฐานข้อมูลไวรัสเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และเพื่อให้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง ถ้าหากเราไม่ทำงานอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสอยู่อย่างสม่ำเสมอ หรือฐานข้อมูลไวรัสไม่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จะมีผลกับไวรัสตัวใหม่ ๆ ที่ออกมา เพราะว่าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสจะไม่สามารถตรวจจับได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับการอัพเดตแอนตี้ไวรัสของคุณบ่อย ๆ นะจ๊ะ

NOD32 การตั้งค่าโปรแกรม
Figure 7: NOD32 การตั้งค่าโปรแกรม
หลังจากอัพเดตไปแล้ว เรามาดูส่วนของ การตั้งค่าโปรแกรม NOD32 กันบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่าค่าพื้นฐานของเค้าที่ทางผู้พัฒนาเค้าตั้งค่ามาให้นั้นก็โอเครอยู่แล้ว แต่หากต้องการตั้งค่าหรือเพิ่มความสามารถของโปรแกรมเป็นพิเศษ เราก็สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้เช่นกัน อย่างเช่น การตั้งค่าให้ NOD32 ทำงานแบบ Real-Time ของการทำงานโปรเซสในคอมพิวเตอร์ อะไรจะทำงานก็ต้องขออนุญาติจากเราก่อน แบบนี้ก็ดีไปอย่าง แต่ข้อเสียคือเวลาจะรันโปรแกรมอะไรซักอย่าง ก็ต้องถามเราตลอด ถ้าผู้ใช้งานเองไม่รำคาญก็ไม่เป็นไร มันก็เพิ่มคุณภาพของแอนตี้ไวรัสได้อีกทางเช่นกัน

NOD32 ตัวเลือกการสแกนไวรัส
Figure 8: NOD32 ตัวเลือกการสแกนไวรัส
ในส่วนนี้จะเป็นการเลือกให้ NOD32 ทำการสแกนไวรัสแบบไหน เช่นแบบกำหนดเอง ก็จะเลือก Drive ที่ต้องการแสกนได้ รวมไปถึงเลือก Processing ที่กำลังทำงานอยู่ได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ โหลดโปรแกรม NOD32 เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถเจาะจงที่จะสแกนส่วนใดส่วนหนึ่งได้ แต่หากไม่ต้องการเจาะจงอะไร ให้เลือกแบบสมาร์ท โปรแกรมจะทำการสแกนไวรัสให้อัตโนมัตินั่นเอง

NOD32 เริ่มต้นกระบวนการค้นหาไวรัสและกำจัด
Figure 9: NOD32 เริ่มต้นกระบวนการค้นหาไวรัสและกำจัด
โอเคร.. หลังจากที่เลือกตัวเลือกการค้นหาไวรัสแล้ว โปรแกรมก็จะทำการสแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา และก็จะรายงานรายละเอียดต่าง ๆ ที่มันทำไป เช่นไฟล์ไหนเปิดไม่ได้ หรือสแกนส่วนไหนแล้วมีปัญหา หรือรายงานไวรัสพร้อมชื่อไวรัสที่เจอ เป็นต้น ทำให้เราสามารถเลือกต่อไปได้ว่าต้องการจะทำอย่างไรต่อไป

NOD32 การตั้งค่าไม่ให้สแกนโฟเดอร์ที่ต้องการ
Figure 10: NOD32 การตั้งค่าไม่ให้สแกนโฟเดอร์ที่ต้องการ
ความสามารถของ NOD32 นั้นเหลือเฟือจริง ๆ ในส่วนนี้ก็คือการตั้งค่าโฟเดอร์ที่เราไม่ต้องการให้โปรแกรมเข้าไปตรวจสอบได้ เผื่อบางครั้งเราอาจจะเก็บของดีต่าง ๆ เอาไว้ ก็ถือว่าเป็นออฟชั่นที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งานสูงเลยทีเดียว, คุณเริ่มที่จะเทใจให้ NOD32 เหมือนผู้เขียนบ้างแล้วหรือยัง?

NOD32 แสดงหน้าต่างเมื่อตรวจเจอไวรัส
Figure 11: NOD32 แสดงหน้าต่างเมื่อตรวจเจอไวรัส
นี้เป็นตัวอย่างการรายงานว่า โปรแกรม NOD32 ได้ทำการตรวจพบไวรัส ซึ่งจะรายงานว่ามันอยู่ที่ไหน และมีตัวเลือกให้เรา ว่าเราจะทำอะไรกับมัน โดยจะมี 3 ตัวเลือกนั่นคือ
  1. กำจัด (แนะนำ) – ทำการกำจัดไวรัสนั้น ๆ ออกจากระบบการทำงาน
  2. ลบ (แนะน) – ทำการลบข้อมูลส่วนนั้นออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณไปเลย
  3. ไม่มีการทำงาน (ไม่แนะนำ) – ตัวเลือกนี้จะไม่มีการทำงานใด ๆ กับไฟล์นั้น บางครั้งมันก็ไม่ใช่ไวรัส เราก็เลือกตัวนี้ ซึ่ง โปรแกรม NOD32 ให้ความเป็นส่วนตัวกับเรามาก ๆ

ESET NOD32 Antivirus มาพร้อมกับ AntiSpyware
Figure 12: ESET NOD32 Antivirus มาพร้อมกับ AntiSpyware
โปรแกรม NOD32 นั้นได้พัฒนาไปไกลมากจริง ๆ นอกจากจะมี Antivirus แล้วและในเวอร์ชั่นปัจจุบัน ESET NOD32 Antivirus 5 ได้มีการบรรจุความสามารถในการป้องกันไวรัสแบบ Spyware เข้าไปด้วย หรือที่เป็นที่รู้จักกันว่า Anti Spyware เพราะว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นแหล่งแพร่กระจายไวรัสชั้นเลิศ จึงทำให้มีการป้องกันที่เข้มงวดมากกว่าเดิมหลายเท่า และนี่ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์และข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ของคุณนั่นเอง

NOD32 เครื่องมือป้องกันไวรัสที่หลากหลาย
Figure 13: NOD32 เครื่องมือป้องกันไวรัสที่หลากหลาย
อ้างอิง:http://www.sangdown.com/nod32
 

 การอัพเดต NOD32

1. เปิดหน้า nod32 คลิ๊กที่ Setup

2. หัวข้อ Setup เลือกไปที่ Enter Entire Advanced Setup Tree..

3. ที่เมนูด้านซ้าย เลือกไปที่ Update
4. ตรงส่วนของ Username และ Password ไม่ต้องใส่ปล่อยว่างเอาไว้
จากนั้น
คลิ๊กที่ Edit


5. สำหรับผู้ที่จะทำการ Update แบบ Online ให้กรอก
http://www.jkdramas.com/nodup/eset_v3_upd

สำหรับผู้ที่จะ
Update แบบ Offline ให้ใส่ path ของที่เก็บไฟล์ Offline เอาไว้
หากเก็บไว้ที่
c:\update_Nod_V3 ให้กรอก c:\update_Nod_V3 ลงไป
6. กด OK



7. ที่ Update Server ปรับเลือกเป็น รายการที่ทำการเพิ่มไป หาก update Online ปรับเลือกเป็นhttp://www.jkdramas.com/nodup/eset_v3_upd
หาก update แบบ offline ปรับเลือกเป็น
path ที่ตั้งไว้ ส่วนของ Username และ Password ไม่ต้องใส่ปล่อยว่างเอาไว้
8. เสร็จแล้วกด
OK

9. กดที่ Update Virus Signature database

10. โปรแกรมจะทำการ update ให้เองอัตโนมัติจนเสร็จ



อ้างอิง http://jkdramas.com/nodup/eset_v3_upd/

วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์

1.ไวรัสคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ คืออะไร
ตอบ:ไวรัส คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล ไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน
          การที่คอมพิวเตอร์ใดติดไวรัส หมายถึงว่าไวรัสได้เข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไวรัสก็เป็นแค่โปรแกรมๆ หนึ่ง การที่ไวรัสจะเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำได้นั้นจะต้องมีการถูกเรียกให้ทำงานได้นั้น ยังขึ้นอยู่กับประเภทของไวรัสแต่ละตัว ปกติผู้ใช้มักจะไม่รู้ัตัวว่าได้ทำการปลุกคอมพิวเตอร์ไวรัสขึ้นมาทำงานแล้ว
          จุดประสงค์ของการทำงานของไวรัสแต่ละตัวขึ้นอยู่กับตัวผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น เช่น อาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแสดงข้อความวิ่งไปมาบนหน้าจอ เป็นต้น 
อ้างอิง:http://www.dld.go.th/ict/article/virus/v20.html
2.ไวรัสคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็นหมวดหมู่หรือประเภทอย่างไรบ้าง
ตอบ:ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 5 ประเภทดังนี้
1.บูตไวรัส
2.ไฟล์ไวรัส
3.มาโครไวรัส
4.หนอน
5.โทรจัน
อ้างอิง:http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=3c7bc41025d6bb6b&pli=1
3.บอกรายละเอียด ความสำคัญของไวรัสคอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์แต่ละประเภท
ตอบ:1.บูตไวรัส
บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่ เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันที
บูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
2.ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น
3.มาโครไวรัส
มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น
4.หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น
5.โทรจัน
ม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะ ถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
อ้างอิง:http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=3c7bc41025d6bb6b&pli=1
4.บอกวิธีการป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์
ตอบ:5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์

         ไวรัสสำหรับคอมพิวเตอร์ ก็คล้าย ๆ กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคหวัดของเรานั่นแหละ นอกจากจะทำร้ายคอมพิวเตอร์ของเรา ยังอาจลุกลามไปถึงเครื่องคนอื่นได้ โดยเฉพาะในออฟฟิศหรือสำนักงาน มาป้องกันไวรัสด้วยวิธีง่าย ๆ นี้ดีกว่า

         อย่าเปิดอ่านอีเมลแปลก ๆ เวลาที่คุณเช็กอีเมล ถ้าเผอิญเจออีเมล์ชื่อแปลก ที่ไม่รู้จักให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าต้องมีไวรัสแน่นอน แม้ว่าชื่อหัวข้ออีเมลจะดูเป็นมิตรแค่ไหน ก็อย่าเผลอกดเข้าไปเด็ดขาดล่ะ

         ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส (Anti-virus) ต้องยอมรับว่า ไม่มีโปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัสโปรแกรมใดสมบูรณ์แบบ จะต้องอัพเดตโปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและกำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ครอบ คลุมถึงไวรัสชนิดใหม่ ๆ

         อย่าโหลดเกมมากเกินไป เกมคอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีไวรัสซ่อนอยู่ ไม่ควรโหลดมาเล่นมากเกินไป และควรโหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น บางทีเว็บไซต์จะมีเครื่องหมายบอกว่า "No virus หรือ Anti virus" อยู่แบบนี้ถึงจะไว้ใจได้

         สแกนไฟล์ต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท ควรทำการสแกนไฟล์ รวมทั้งข้อมูลจากภายนอกก่อนเข้ามาใช้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CD, Diskette หรือ Handydrive ต้องใช้โปรแกรมค้นหาไวรัสเสียก่อน

         หมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เช่น หน่วยความจำ, การติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ลงไป, อาการแฮงค์ (Hang) ของเครื่องเกิดจากสาเหตุใด บ่อยครั้งหรือไม่ ซึ่งคุณอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกบริการ (Utilities) ต่าง ๆ เพิ่มเติมในเครื่องด้วย

Tip ... รู้ได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ติดไวรัสแล้ว

         1. การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลงกว่าปกติ

         2. คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ

         3. อยู่ดี ๆ ข้อมูลบางอย่างก็หายไป

         4. ตัวเครื่อง Restart เองโดยไม่ได้สั่ง

         5. แป้นพิมพ์ทำงานปกติหรือไม่ทำงานเลย
อ้างอิง:http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=432b30f5a0d4d167
5.ยกตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้ในการป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่มีเจตนาไม่ดีต่อคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับความนิยม มาอย่างน้อย 5 โปรแกรม
ตอบ:1. AVG Antivirus Free Edition 2011: เป็นโปรแกรมที่สามารถป้องกันไวรัสและสปายแวร์ ตัวใหม่ๆ ได้ เช่น ไวรัสที่มากับ E-mail เพราะทุกวันนี้ไวรัสและสปายแวร์จะมีการอัพเดทความสามารถในการทำลายอยู่ตลอด ดังนั้นเราก็ควรอัพเดทโปรแกรมที่มีอยู่และอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของโปรแกรมอยู่ตลอด
2. Avira AntiVir Personal Free Edition: สามารถกำจัดไวรัสได้มากว่า 300,000 ชนิด มีการอัพเดท ข้อมูลไวรัสในเครื่องของเราแบบอัตโนมัติ ทำให้โปรแกรมไม่ล้าหลัง และตามไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ทัน โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ต และชอบดาวน์โหลด ทั้งหลาย แต่บางทีเวลาที่เราสแกน โปรแกรมก็ชอบลบข้อมูลบางอย่างออกไปด้วย
3. Avast Free Antivirus: สามารถป้องกันไวรัส Spyware หรือ Malware ต่าง ๆ ที่แฝงตัวมากับเว็บไซต์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ การสแกนสามารถสแกนได้ทั้งไฟล์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และสแกนขณะที่บู๊ตเครื่องก็ได้ค่ะ โดยโปรแกรมจะตรวจจับไวรัสและกำจัดไวรัสให้ทันทีที่พบ และในปัจจุบันโปรแกรมสามารถรองรับภาษาได้มากกว่า 19 ภาษา เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด สามารถใช้งานได้ง่าย
4. PC Tools AntiVirus Free: โปรแกรมนี้ก็จะช่วยป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ให้ติดไวรัสได้ง่ายๆ ซึ่งเหมือนกับโปรแกรมสแกนไวรัสตัวอื่น ๆ สำหรับโปรแกรมนี้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่ขนาดของไฟล์อาจจะค่อนข้างใหญ่
5. Microsoft Security Essentials: สำหรับโปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบและกำจัดไวรัสหรือสปายแวร์ได้เกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าไวรัสจะเปลี่ยนสถานะในการเข้าถึงข้อมูลของเราเป็นอย่างไรก็ตาม โปรแกรมก็จะตรวจพบไวรัสได้อยู่ดี ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัสลองโหลดโปรแกรมตัวนี้ไปใช้ดูนะคะ เพราะเป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Microsoft เองซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows อุ่นใจขึ้นได้
อ้างอิง:http://www.techxcite.com/topic/4217.html#sthash.tTB4JoML.dpuf
6. ดาวน์โหลด โปรแกรม Nod32 พร้อมแสดงวิธีการติดตั้งและใช้งาน รวมทั้งวิธีการอัพเดท ให้ทันต่อ
ไวรัส
ESET NOD32 Antivirus 5
หลายคนๆ คงคุ้นเคยกับชื่อโปรแกรมอย่าง NOD32 ซึ่งเป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นจำนวนมาก อัพเดทล่าสุดสำหรับวันนี้ทางค่าย ESET ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในเวอร์ชั่นล่าสุดและได้ปล่อย NOD32 AntiVirus 5.2 มีขนาดโปรแกรมประมาณ 48.38MB สำหรับเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นฟรี ที่เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานกันได้แล้ว
NOD32 AntiVirus 5 จะช่วยคุณในการเพิ่มระดับความป้องกันในการใช้งานออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Social Network , การดาวน์โหลดไฟล์ , การเล่นเกมส์ออนไลน์ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลมีเดียต่างๆ ระหว่างเพื่อนของคุณ ในด้านการทำงานจะมีการตรวจจับสแกนและใช้เทคโนโลยีเหนือเมฆในการช่วยตรวจสอบป้องกันภัยคุกคามหรือการโจมตีต่างๆ ทั้งหมด และอาชญากรไซเบอร์ที่ต้องการบุกรุกคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

คุณสมบัติที่โดดเด่นและประโยชน์ที่คุณจะได้รับจาก NOD32 AntiVirus 5
- การสแกนตรวจจับค้นหาไวรัสต่างๆ ด้วยระบบปฏิบัติการเหนือเมฆที่จะช่วยป้องกันแบบ real-time และปรับค่าให้เหมาะสมกับภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต
- ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการใช้งานแบบออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีสิ่งใดๆ มารบกวน
- ระบบประหยัดพลังงานโดยอัตโนมัติและเลื่อนงานที่กำหนดพร้อมเวลาแจ้งเตือนคุณก่อนการดาวน์โหลดโปรแกรมปรับปรุงที่มีขนาดใหญ่
- การตรวจหามัลแวร์โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบขั้นสูง ที่จะช่วยปกป้องคุณจากภัยคุกคามที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยจากมัลแวร์ต่างๆ
- ตรวจสอบโดยอัตโนมัติสแกนทุกไดรฟ์ , USB แฟลชไดร์ฟ , การ์ดหน่วยความจำและซีดี / ดีวีดี
- คุณสามารถปรับแต่งการทำงานของระบบให้มีความละเอียดยิ่งขึ้นตามต้องการ
- ถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหาต่างๆ ของระบบในระดับต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและราบรื่นอย่างต่อเนื่องในการรักษาความปลอดภัย
อ้างอิง:http://downloadhoo.com/nod32-antivirus-5-2.html








วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การคัดลอกซีดี CD

การใช้ Nero StartSmart ของโปรแกรม Nero 8

มารู้จัก Nero StartSmart
Nero เป็นชุดโปรแกรมท่รวมโปรแกรมย่อยที่ทำงานแตกต่างกัน ซึ่งเลือกเมนูที่เรียกว่า Nero StartSmart ซึ่งทำการจัดระเบียบส่วนการเขียนซีดี/ดีวีดี โดยแยกตามประเภทของข้อมูล เช่น เขี้ยนไฟล์ข้อมูลทั่วไป เขียนไฟล์เพลง หรือเขียนไฟล์วิดีโอลงบนแผ่นซีดี/ดีวีดี เป็นต้น
การใช้ Nero StartSmart
เมื่อต้องการเรียกใช้โปรแกรม Nero StartSmart ให้คลิกปุ่ม แล้วเลือก All Programs > Nero 8 > Nero StartSmart ดังนี้


ปรากฏหน้าจอโปรแกรม Nero StartSmart

ส่วนประกอบของ Nero StartSmart
A เมนูสำหรับเลือกเขียนข้อมูลอย่างรวดเร็ว เช่น ซีดีข้อมูล ซีดี Audio ดึงไฟล์เพลงจากแผ่นซีดี Audio และการคัดลอกซีดี
B หมวดริปและเบิร์น (Rip & Burn) : เขียนซีดีข้อมูล/ซีดีเพลงแบบต่างๆ การคัดลอกซีดี และการดึงเพลงจากแผ่น Audio
C หมวดสร้างและแก้ไข (Create & Edit) : ตกแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ/ไฟล์เสียง สร้างวีซีดี/ดีวีดีภาพยนต์ และการออกแบบปกซีดี
D หมวดความบันเทิงภายในบ้าน (Home Entertainment) : เล่นไฟล์เสียง/ไฟล์ภาพ/ไฟล์วิดีโอ และการชมทีวีผ่าน Nero
F หมวดแบ็คอัพ (Backup) : การคัดลอกดิสก์หรือการสำรองข้อมูลเก็บไว้

ใช้งานเมนู Nero StartSmart
หมวดริปและเบิร์น (Rip & Burn)


ฟังก์ชันการทำงานมี ดังนี้
ดึงไฟล์เพลงจากแผ่นซีดี Audio
สร้างแผ่นซีดีเพลง Audio
สร้างแผ่นซีดีเพลงสำหรับไฟล์เพลง MP3/WMA
สร้างแผ่นซีดี/ดีวีดีเก็บช้อมูลทั่วไป
เขียนไฟล์วิดีโอลงบนแผ่นซีดี/ดีวีดี
ทำการคัดลอกแผ่นซีดี/ดีวีดี


หมวดสร้างและแก้ไข (Create & Edit)
ฟังก์ชันการทำงานมี ดังนี้
ปรับแต่งไฟล์ภาพเบื้องต้นด้วยโปรแกรม Nero PhotoSnap
สร้างแผ่นวีซีดีโชว์ ากไฟล์ภาพที่มีอยู่
รวมไฟล์เสียง ตกแต่ง/ใส่เอฟเฟ็กต์เพิ่มเติมให้ไฟล์เสียง
การทำงานกับไฟล์เสียง เช่น ตัดต่อหรือบันทึกไฟล์เสียง
จับภาพวิดีโอกล้องดิจิตอล หรือการ์ดตัดต่อวิดีโอ พร้อมตัดต่อและแปลงออกมาเป็นไฟล์ฟอร์แม็ทต่างๆ
ออกแบบปกซีดี/ดีวีดี รวมทั้งสกรีนบนแผ่นซีดี
แปลงไฟล์วิดีโอรูปแบบต่างๆ ด้วย Nero Recoce
แปลงไฟล์เสียงรูปแบบต่างๆ
หมวดควาบันเทิงภายในบ้าน (Home Entertainment)
ฟังก์ชันการทำงานมี ดังนี้
เล่นเพลงจากแผ่นซีดี Audio แผ่น MP3/WMA หรือไฟล์เสียงประเภทต่างๆ
ชมภาพยนต์ผ่านทางภาพยนต์ซีดี/วีซีดี และไฟล์วิดีโอประเภทต่างๆ
เลือกชมไฟล์ภาพผ่านทางโปรแกรม Nero PhotoSnap Viewer
หมวดแบ็คอัพ (Backup)
ฟังก์ชันการทำงานมี ดังนี้
ทำการสำรองข้อมูลที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ด้วย Nero Backltup
กู้คืนการสำรองข้อมูลคืนมา
กำหนดเวลาและข้อมูลท่ต้องการสำรองอัตโนมัติ
สร้างแผ่นดิสก์ฉุกเฉิน สำหรับใช้กู้ระบบเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น
ทำการคัดลอกแผ่นซีดี/ดีวีดี
ออกจากโปรแกรม Winamp
– คลิกเมนู File > Exit จากนั้นโปรแกรมจะยืนยันการปิดโปรแกรม
– กดปุ่ม <Ctrl+Q>บนคีย์บอร์ด
– คลิกปุ่ม ที่บริเวณ Title Bar